รอบนี้ที่เรามาชม Sakura จริงๆ แล้วต้องการมาเที่ยว SUPER NINTENDO WORLD universal Studios Japan ครับ เพราะเห็นมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้มา สวยถูกใจมากๆ ซากุระก็เช่นกัน
เดินเที่ยว ชมซากุระเกียวโต (Sakura Kyoto) ฉบับ เที่ยวญี่ปุ่น 2023
สำหรับการ เที่ยวญี่ปุ่น 2023 ในครั้งนี้ ผมจะพาทุกท่านไปเดินเที่ยวงาน Sakura Kyoto และชมซากุระ กันดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงที่ ซากุระเกียวโต 2566 กำลังเบ่งบาน และเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้ผมไม่พลาดในการพาครอบครัวไปพบกับบรรยากาศ และได้เดินชมงาน ซากุระเกียวโต 2566 แบบจัดหนัก จัดเต็ม กันเลยทีเดียว กับบรรยากาศฟินๆ แบบนี้
ถ้าหากพูดถึงสถานที่ชม ซากุระเกียวโต 2566 ในญี่ปุ่นแล้ว นั้นหลายคน อาจจะงงและสงสัยว่าที่ไหนดีหรือที่ไหนสวยกันแน่ เพราะแต่ละที่มีความงดงาม ที่ไม่เหมือนกันแต่ถ้าใครได้เป็นสายธรรมชาติ และรักสถานที่โบราณเรา ขอแนะนำเลยว่าให้มาเที่ยวที่เกียวโต เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งต้นกำเนิด ของวัฒนธรรมหลายๆอย่าง ของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นทั้งศาลเจ้า แบบโบราณหรือช่วงที่ซากุระกำลังเบ่งบาน ยิ่งสวยทวีคูณและเหมาะแก่การท่องเที่ยว เป็นอย่างมากโดนใจสายถ่ายรูปไม่น้อย ชมดอกซากุระ ริมแม่น้ำคาโม่ (Kamogawa)
สิ่งแรกที่อยากแนะนำ สำหรับการเดินเที่ยวชมดอกซากุระ Sakura Kyoto ในเมืองเกียวโตนั้น อยากจะแนะนำให้เลือกเดินชมตามแนว แม่น้ำคาร์โม่ (Kamogawa) เพราะด้วย ผังเมืองที่นี่นั้นมีการปลูกต้นซากุระ ติดอยู่ริมแม่น้ำที่คุณสามารถที่จะปั่นจักรยาน หรือเดินชมกับบรรยากาศที่ดี และบอกเลยว่าตรงนี้นั้น ในช่วงที่ผมไปกำลังบานสะพรั่ง แถมไม่ค่อยมีคนเลยแวะมาชม ความงามและบรรยากาศที่ดีไม่น้อย
สำหรับการเดินทางไปชมซากุระ ที่นี่นั้น ถือว่าเดินทางไม่ยากสามารถ ที่จะเดินทางได้ จากสถานีเกียวโตที่ห่างออกไป เพียงแค่ 800 เมตรเท่านั้นตั้งแต่ต้น ที่ทางออกจากทางทิศเหนือ และสามารถเดินผ่านโตเกียวทาวเวอร์ จนไปถึงถนนชิโอโคจิ หลังจากนั้นให้เลี้ยวเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นสะพานคาโม่ และจะพบกับต้นซากุระมากมาย ที่ให้บรรยากาศดีจริง เดินได้แบบเพลินๆ ใครพาคู่รัก หรือ คนรักหรือแฟนมาบอกเลยว่า บรรยากาศสุด จะโรแมนติกเกินบรรยาย
ศาลเจ้าโรคุซนโนะ (Rokusonno Shrine)
นี่คือ ศาลเจ้าโรคุซนโนะ (Rokusonno Shrine) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าขนาดเล็ก ที่อยู่ห่างจากสถานีโตเกียว ประมาณเพียงแค่ครึ่งกิโลเท่านั้น ที่ยังเดินไปได้อยู่ โดยที่จะเริ่มต้น จากทางออกทางทิศใต้ของสถานีรถไฟเดินไปยัง ถนนฮาชิโระโดริ จากนั้นให้ทำการเลี้ยวขวาแล้ว เดินไปตามถนนฮาชิโจ และจะผ่านสี่แยก หลักไฟแดงแล้ว เดินต่อไปอีกนิดหน่อยก็จะพบกับเสาโทริหินสีเทา พร้อมด้วยบรรยากาศซากุระที่ฟูฟ่องอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก และบรรยากาศดีเกินคาด บอกเลยว่าเดิน หลายชั่วโมงก็ไม่มีเหนื่อย
วัดริวฮอนจิ (Ryuhonji Temple)
สำหรับ วัดริวฮอนจิ (Ryuhonji Temple) เป็นวัดที่ค่อนข้างมีความศักดิ์สิทธิ์ของคนญี่ปุ่น ที่หลายคนไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เพราะไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ของเกียวโต แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงวัดแห่งนี้ จะบานสภาพไปด้วยดอกซากุระ หลากหลายสายพันธุ์ที่พร้อมอวดโฉม ให้ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก และบอกเลยว่าสวยจริง และเหมาะกับการถ่ายรูปไม่น้อย
ศาลเจ้าทาเคนากะ (Takenaka Inari Shrine)
ในส่วนของ ศาลเจ้าทาเคนากะ (Takenaka Inari Shrine) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ผมชอบมากเลยทีเดียวกับรูปซากุระ Sakura Kyoto เบ่งบานสะพรั่ง ที่แทรกไปด้วยสีแดงสดของเสาโทริอิ ที่ตั้งเรียงกัน อย่างเป็นระบบระเบียบ ซึ่งเห็นแล้วเหมือนกับตกอยู่ในซีรีย์ญี่ปุ่น หรือหนังญี่ปุ่นเลยทีเดียว
การเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ ก็เริ่มต้นจากสถานีรถไฟโตเกียว และให้นั่งรถบัสสาย 17 หรือ 206 ก็ได้ ที่มันลงกับป้ายรถเมล์ที่หน้าวัดได้เลย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเกียวโต จะมีจุดจอดรถอยู่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง การเดินทางที่ง่ายมาก ใส่ชุดกิโมโน เดินรอบเมืองก็เข้ากับบรรยากาศดี แน่นอนว่าการมา เที่ยวญี่ปุ่น 2023 สักครั้งหนึ่ง
การใส่ชุดกิมิโน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะกับบรรยากาศ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ กับอากาศที่เย็นสบายไม่หนาวเกินไป และไม่ร้อนเกินไปบอกเลยว่าการใส่ชุดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถตอบโจทย์ ต่อการเดินท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ อย่างแน่นอนและเป็นส่วนสำคัญได้ อย่างเต็มที่อีกด้วย บวกกับการถ่ายรูปลงโซเชียล เป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างแน่นอน กับภาพพื้นหลังบรรยากาศของดอกซากุระที่เบ่งบานของดอกสีชมพู ที่สวยงาม พร้อมชุดกิโมโน หรือ ยูกาตะ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าคุณจะได้ ภาพในระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน
เที่ยว 1 วันก็ไม่หมด หลังจากที่ได้ลองเดินเที่ยวดูแล้ว บอกเลยว่ายังมีอีกหลายสถานที่ในเมืองเกียวโต ที่ผมยังเดินไม่หมดและบอกเลยว่า ถ้าจะมาเที่ยวแต่ละครั้ง ต้องเผื่อเวลาไว้ 2-3 วันเลยทีเดียวกับการอยู่ในเกียวโต เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เก็บบรรยากาศได้แบบเต็มอิ่ม และเหมาะกับการพักผ่อน หย่อนใจ ไม่น้อย
ในบรรยากาศชิวๆแบบนี้ บอกเลยว่าที่นี่แหละตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน และเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่เรา อยากให้คุณได้มาเดินเที่ยวกันอีกด้วย และเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด แถมทริปที่ผมไปก็มีการไปเดินเที่ยวใน Mario USJ ยูนิเวอร์ซัลต่อ พี่บอกแล้วว่าเหมาะกับการพาครอบครัวไปเดินไม่น้อย s